ประวัตินาฬิกา Omega

นาฬิกา Omega เป็นหนึ่งในนาฬิกาที่สร้างชื่อเสียงอย่างยาวนานด้วยการออกแบบที่ไม่เหมือนใครสะท้อนภาพลักษณ์และดีไซน์ที่สวยงามตอบโจทย์ผู้ใช้งานเป็นอย่างดี แม้เวลาจะผ่านมานานเพียงใด นาฬิกา Omega ก็ยังขึ้นชื่อในเรื่องคุณภาพที่การันตีจากผู้ใช้ทั่วโลก การผลิตทุกขั้นตอนมีความพิถีพิถัน ทำให้นาฬิกา Omega เป็นที่ชื่นชอบและครองใจคนทั่วโลกตั้งแต่อดีตจนปัจจุบัน วันนี้เรามาดูประวัติของนาฬิกา Omega กันครับ

800px-Workspace_of_Louis_Brandt

The workbench of Louis Brandt with a photograph of the founder.

ประวัตินาฬิกา Omega นั้นเริ่มต้นในปี 1848 ก่อตั้งโดยนักประดิษฐ์และนักคิดค้น นาย Louis Brandt ณ เมือง La Chaux-da-Fondsผลงานการประดิษฐ์ของเขาเริ่มมีชื่อเสียงขึ้นเรื่อยๆ แต่โชคร้ายที่เขาได้เสียชีวิตลง อย่างไรก็ตาม บุตรชายของเขาสองคนคือ Louis และ C’esar Brandt ได้มาสืบทอดกิจการช่วงต่อจากพ่อของเขา จาดนั้นไม่นานพวกเขาได้ย้ายจากเมือง La Chaux-da-Fondsไปสร้างโรงงานเล็กๆในเมืองแห่งหนึ่ง และอีก2ปีถัดมา ก็ได้ย้ายมาที่เมือง Gurzelen district of Bienne จนกลายมาเป็นสำนักงานใหญ่ในปัจจุบัน

Louis และ C’esar Brandt ได้สร้างประวัตินาฬิกา Omega ขึ้นมาเรื่อยๆจนกระทั่งเขาทั้งคู่ได้เสียชีวิตลงในปีเดียวกัน เขาได้ทิ้งแบรนด์นาฬิกาOmega ผู้ผลิตนาฬิการายใหญ่ที่สุดในสวิสเซอร์แลนด์ ณ ขณะนั้น และพนักงานกว่า 800 ชีวิต ที่ทำยอดขายกว่า 240,000 เรือนต่อปี ไว้กับกลุ่มคนหนุ่มเพียง4คน ซึ่งคนที่อาวุโสที่สุดในกลุ่มก็คือ Paul-emile Brandt ที่มีอายุเพียง23 ปี

ในช่วงสงครามโลกครั้งที่1 บริษัท omega ได้เผชิญกับปัญหาต่างจึงตัดสินใจร่วมธุรกิจกับ Tissot เป็นเวลา5ปี โดยใช้ชื่อร่วมกันคือ SSIH ต่อมาในช่วงทศวรรษที่ 70 บริษัท SSIH ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก จนกลายเป็นผู้ผลิตนาฬิกาสวิสรายใหญ่และสร้างรายได้เป็นอันดับ3ของโลก

ในปี 1975 มีวิกฤตทางเศรษฐกิจและการเมืองอย่างรุนแรง ทำให้บริษัท SSIH ถูกชื้อกิจการในเวลาต่อมา โดยธนาคารแห่งหนึ่งหลังจากนั้นไม่กี่ปี บริษัท SSIH ถูกบริหารกิจการต่อโดยกลุ่มนักธุรกิจเอกชน ซึ่งมี Nicolas Hayek เป็นผู้บริหารและได้มีการปรับเปลี่ยนชื่อใหม่จาก SSIH เป็น SMH (Societe Suisse de microelectronique et d’horlogerie) ซึ่งบริษัท SMH ที่มารับช่วงต่อก็สร้างยอดขายที่สูงมากและยังสร้างชื่อเสียงให้ดังไกลระดับโลก

The Omega Speedmaster, or "Moonwatch", selected by NASA for all the Apollo missions

The Omega Speedmaster, or “Moonwatch”, selected by NASA for all the Apollo

ด้วยประวัตินาฬิกา Omega ที่สร้างชื่อเสียงมาอย่างยาวนาน สาวกนาฬิกาจากทั่วทุกมุมโลกจึงให้ความสนใจนาฬิกายี่ห้อนี้เป็นอย่างมาก รุ่นที่สร้างเสียงให้กับประวัตินาฬิกา Omega มากที่สุดคือรุ่น Omega Speedmasterแบบ Chronograph ซึ่งผลิตขึ้นมาในปี 1957 จากนั้นบริษัทก็ได้ทำการผลิตมาเรื่อยๆ จนกระทั่งในช่วงต้นทศวรรษที่ 60 ช่วงนั้นนาซ่ากำลังทำโครงการเพื่อไปสำรวจดาว Mercury นอกโลก โดยจะต้องส่งนักบินอวกาศสองคนไปกับยาน ซึ่งทั้งคู่ต้องทำภารกิจนอกยานที่มีความดันในอากาศในสภาพสุญญากาศ และอุณหภูมิที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา การใช้นาฬิกาที่มีคุณภาพสูง ทนได้ทุกสภาพอากาศจึงเป็นเรื่องสำคัญอย่างมาก นาซ่าจึงได้ซื้อนาฬิกา Chronographยี่ห้อต่างๆรวมทั้งนาฬิกายี่ห้อ Omega มาทดสอบ ซึ่งนาฬิกาที่จะนำไปใช้ในอวกาศจริงๆจำเป็นจะต้องผ่านการทดสอบทางด้านคุณสมบัติต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องแรงดันอากาศ แรงดันน้ำ นาฬิกาเดินพลาดได้ไม่เกิน 5 วินาที ใน 24 ชั่วโมง หน้าปัดต้องอ่านง่าย และต้องมองเห็นชัดเจนไม่ว่าจะอยู่ใต้สภาวะแบบใดก็ตาม นาฬิกาต้องมีคุณหน้าปัดที่กันน้ำ กันกระแทกได้ และที่สำคัญตัวหน้าปัดต้องไม่คม และไม่กระจายเป็นชิ้นเล็กๆเมื่อแตก เพราะอาจเป็นอันตรายต่อนักบินอวกาศได้

หลังผ่านการทดสอบเบื้องต้อนแล้ว ต้องมาทดสอบในอีกขั้น เช่น การนำเข้าไปในห้องอบที่มีอุณหภูมิสูง และนำมาเข้าในห้องที่มีอุณหภูมิต่ำกว่าจุดเยือกแข็ง ต่อมานำมาทดสอบสุญญากาศและความชื้น รวมถึงเข้าเครื่องเขย่าเพื่อทดสอบความอึดทน และทดสอบด่านต่างๆอีกมากมาย เพื่อดูว่าจะสามารถนำมาใช้ในอวกาศจริงๆหรือไม่ ผลปรากฏว่านาฬิกา Rolex หยุดเดิน2ครั้ง เข็มมีลักษณะงอในตู้อบที่มีอุณหภูมิสูง จึงไม่ผ่านการทดสอบ ยี่ห้ออื่นๆก็ได้รับความเสียหายจึงไม่ผ่านการทดสอบ เหลือเพียงแต่ยี่ห้อ Omega รุ่น Speedmasterที่ยังคงอยู่ที่ยังอยู่คงทน นับเป็นการสร้างประวัตินาฬิกา Omega ครั้งยิ่งใหญ่ และยังเป็นยี่ห้อเดียวในบรรดาแบรนด์ชั้นนำที่ผ่านการทดสอบครั้งนี้ อีกทั้งนาฬิการุ่น Speedmasterของ Omega ยังได้ถูกใช้ขึ้นจริงในโครงการ Gemini 3 และเพื่อเป็นการเฉลิมฉลองที่นาซ่านำนาฬิการุ่นนี้ไปใช้บนยานอวกาศจริง ทางผู้ผลิตจึงได้เพิ่มตัวอักษรว่า Professional กลายเป็นรุ่น SpeedMAster Professional นั่นเอง

ต่อมาในปี 1975 ได้มีการใช้นาฬิกา Omega Speedmasterขึ้นอีกครั้งในโครงการอวกาศระหว่างสหรัฐอเมริกา และสหาภาพโซเวียด โดยมีนักบินอวกาศจากทั้งสองประเทศเข้าร่วม และมีการถ่ายภาพการจับมือที่สวมนาฬิกา Omega รุ่น SpeedMAsterในอวกาศไว้เป็นที่ระลึกด้วย การทดสอบนี้จึงเป็นการรับรองว่านาฬิกา Omega มีคุณภาพและความทนทาน แม้อยู่ในสภาพอากาศที่แปรปรวนในอวกาศ ก็ยังสามารถใช้งานได้ปกติ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

จึงไม่สงสัยเลยว่าทำไมนาฬิกาOmega ถึงได้รับความนิยมไปทั่วทุกมุมโลก ด้วยชื่อเสียงที่มีมานานของนาฬิกา Omega ผนวกกับคุณภาพ และดีไซน์ที่สวยงาม นาฬิกาOmega เป็นนาฬิกาที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว นาฬิกายี่ห้อนี้จึงทำยอดขายสูงตลอดกาล แม้จะผ่านไปกี่ยุคกี่สมัย แต่นาฬิกา Omega ก็ยังครองใจสาวกนาฬิกาทั่วโลก


Powered by themekiller.com anime4online.com animextoon.com apk4phone.com tengag.com moviekillers.com